ครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ต้นเหตุของโรคผิวหนัง แต่เคยสงสัยไหมว่าทำไมการทากันแดดสองข้อนิ้วจึงเป็นมาตรฐานที่คนทั่วโลกต่างใช้กันอย่างแพร่หลาย? ไปดูกัน

ทฤษฎีการทากันแดดสองข้อนิ้ว หรือ Two-Finger Rule เป็นวิธีง่ายๆ ในการทาครีมกันแดดให้ได้ปริมาณเพียงพอต่อการปกป้องผิวจากรังสียูวี ซึ่งเปรียบเสมือนเกราะป้องกันอันตรายจากแสงแดด ช่วยให้ผิวเปล่งประกาย สุขภาพดี และอ่อนเยาว์อยู่เสมอ

ทฤษฎีนี้ริเริ่มโดยแพทย์ผิวหนังชาวออสเตรเลีย แนะนำให้ใช้ปริมาณครีมกันแดดประมาณ 1 กรัม สำหรับทาครีมกันแดดทั่วใบหน้า และลำคอ ซึ่งปริมาณนี้เทียบเท่ากับครีมกันแดดที่บีบลงบนนิ้วชี้ และนิ้วกลาง ตั้งแต่โคนนิ้วจนถึงปลายนิ้ว

การทาครีมกันแดดเป็นวิธีสำคัญในการปกป้องผิวจากรังสียูวี อย่างไรก็ดี หลายๆ คนยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับวิธีการทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง มาดูเคล็ดลับการทาครีมกันแดดอย่างมีประสิทธิภาพกันดีกว่า!

1. เลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิว ผู้ที่มีผิวแห้งควรเลือกเนื้อครีม หรือโลชั่น ส่วนผู้ที่มีผิวมันควรเลือกเนื้อเจล หรือน้ำนม และสำหรับผู้ที่มีผิวผสม ควรเลือกเนื้อเจล-ครีม
2. เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ PA เพียงพอ โดยค่า SPF ควรเลือกอย่างน้อย 30 ขึ้นไป และค่า PA ควรอยู่ในระดับ PA++++
3. ทาครีมกันแดดในปริมาณที่เพียงพอ การทาครีมกันแดดให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ต้องใช้ครีมปริมาณ 1 กรัม สำหรับทาใบหน้า และลำคอ ซึ่งปริมาณนี้เทียบเท่ากับการบีบครีมลงบนนิ้วชี้ และนิ้วกลาง ตั้งแต่โคนนิ้วจนถึงปลายนิ้ว แล้วทาให้ทั่วใบหน้า ลำคอ หู ซอกคอ ไรผม และบริเวณที่สัมผัสแสงแดด
4. ทาครีมกันแดดก่อนออกแดด 15-20 นาที เพื่อให้ครีมซึมเข้าสู่ผิว และออกฤทธิ์ได้เต็มที่ โดยควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หลังว่ายน้ำ หรือตอนเหงื่อออก
5. ทาครีมกันแดดทุกวัน แม้จะอยู่ในร่มก็ตาม ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน เนื่องจากรังสียูวีเอสามารถทะลุผ่านกระจกเข้ามาทำร้ายผิวได้ การทาครีมกันแดดสม่ำเสมอจะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี ลดความเสี่ยงปัญหาผิว และเผยผิวกระจ่างใส อ่อนเยาว์ และสุขภาพดี
6. เลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีส่วนผสมปลอดภัย โดยหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่ระคายเคืองผิว ควรเก็บครีมกันแดดไว้ในที่ร่ม และอุณหภูมิห้อง และตรวจสอบวันหมดอายุของครีมกันแดดด้วย

นอกจากปัญหาทาครีมกันแดดแล้วเป็นคราบ หลายคนยังพบว่า แม้จะทาครีมกันแดดเป็นประจำ แต่กลับรู้สึกว่าผิวหน้ากลับหมองคล้ำลง ไม่กระจ่างใสเหมือนเดิม แล้วสาเหตุที่ทากันแดดแล้วผิวหมองคล้ำคืออะไร มาหาคำตอบกัน!

• ทาครีมกันแดดไม่สม่ำเสมอ เช่น ทาครีมกันแดดหนาบ้าง บางทีก็บางเกินไป หรือทาครีมกันแดดเฉพาะบางส่วนของใบหน้า แต่ลืมทาบางส่วน ซึ่งอาจทำให้ผิวหน้าได้รับการปกป้องไม่เท่ากัน
• ทาครีมกันแดดไม่เพียงพอ เช่น ทาน้อยกว่า 2 ข้อนิ้ว หรือทาบางๆ ทำให้ผิวหน้าไม่ได้รับการปกป้องอย่างเพียงพอ
• ทาครีมกันแดดที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว เช่น ผิวแห้งแต่ใช้ครีมกันแดดสูตรบางเบา หรือผิวมันแต่กลับใช้ครีมกันแดดเนื้อเจล 
• ทาครีมกันแดดหมดอายุ หรือมีส่วนผสมที่ระคายเคืองผิว เช่น ทำให้เกิดอาการแพ้ อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ
• ไม่ได้ล้างหน้าให้สะอาดก่อนทาครีมกันแดด ก็อาจส่งผลให้คราบสกปรก และการอุดตันของรูขุมขนเกิดขึ้นได้
• ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมไม่เข้ากันกับครีมกันแดด ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ 
• การพักผ่อนไม่เพียงพอ และการดื่มน้ำไม่เพียงพอ ก็อาจส่งผลให้กระบวนการผลัดเซลล์ผิวช้าลง และเกิดความหมองคล้ำ

แม้คนส่วนใหญ่จะทราบกันดีว่าควรทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวี แต่หลายๆ คนยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับปริมาณการทาครีมกันแดดอยู่ว่าควรทาในปริมาณเท่าไร โดยปริมาณที่เหมาะสมคือการทาครีมกันแดด 2 ข้อนิ้ว และควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสม โดยควรเลือกเนื้อสัมผัสที่เหมาะกับสภาพผิว และไม่ลืมทาครีมกันแดดก่อนแต่งหน้า เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้การปกป้องผิวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และลดปัญหาการเกิดคราบขาว หรือการทำให้ผิวหมองคล้ำได้แล้ว

Reference

1. พญ. พีรธิดา รัตตกุล. ครีมกันแดด จำเป็นแค่ไหนแม้ไม่ได้อออกจากบ้าน. samitivejhospitals.com. Published 2 September 2021. Received 22 April 2024.
2. ทากันแดด 2 ข้อนิ้วดีจริงหรือ จะทากันแดดอย่างไร ไม่ให้วอก และให้ได้ผลที่สุด!. Published 21 September 2023. Received 22 April 2024.