เรือนร่าง
สิวที่หลังกับการดูแลทำความสะอาด

สิวที่หลัง เกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งจากเหงื่อ เสื้อผ้าและเครื่องนอนที่ใช้ ทั้งนี้ เราสามารถป้องกันและรักษาสิวที่หลังได้ด้วยการรักษาความสะอาด และเลือกใช้สบู่หรือครีมอาบน้ำที่มีส่วนผสมช่วยลดการเกิดสิว


สาเหตุของสิวที่หลัง

สิวที่หลังเกิดจากอะไร? สิวที่หลังเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งเรื่องของการรักษาความสะอาด ยาที่ใช้อยู่ หรือกรรมพันธุ์ก็อาจเป็นสาเหตุของสิวที่หลังได้ โดยสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดสิวที่หลัง มีดังนี้

  • ความสกปรก โดยมากแล้ว สิ่งสกปรกที่สะสมบนผิวหนัง และของใช้ที่สัมผัสกับผิว ล้วนแต่เป็นสาเหตุหลักของปัญหาสิวที่หลัง จึงควรหมั่นดูแล ทำความสะอาดเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว และเครื่องนอนไม่ให้อับชื้น รวมไปถึงการอาบน้ำให้สะอาด ถูสบู่ให้ทั่ว และล้างคราบสบู่ออกให้หมด นอกจากนี้ ยังควรต้องเช็ดตัวให้แห้งสนิทหลังอาบน้ำก่อนเปลี่ยนเสื้อผ้า จะช่วยลดความอับชื้นบนผิวหนังได้ดียิ่งขึ้น
  • เหงื่อ เหงื่อบนผิวหนังมักจะผสมกับสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามเสื้อผ้า หากผิวมีไมโครไบโอมไม่สมดุล ทำให้ผิวไวต่อการอักเสบ จนนำไปสู่การเกิดสิวที่หลัง
  • ความเหนื่อยล้า ความอ่อนเพลีย ความเครียด เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อระบบการทำงานของร่างกาย การไหลเวียนเลือด ต่อมไขมัน จนกระตุ้นให้เกิดสิวที่หลังได้เช่นกัน
  • ผิวแห้งขาดน้ำ ผิวบริเวณหลัง แม้จะมีต่อมไขมันน้อย และไม่ได้มีความมันเหมือนผิวหน้า แต่แท้จริงแล้ว แผ่นหลังที่ดูเหมือนผิวแห้ง อาจมีอาการผิวแห้งเทียม หรือผิวขาดน้ำได้ ซึ่งส่งผลให้ร่างกายผลิตน้ำมันมากขึ้น เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ และทำให้ผิวอุดตันได้ง่ายขึ้น
  • ฮอร์โมน ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ระบบการทำงานของร่างกายแปรปรวน ผิวมันง่าย รูขุมขนอุดตัน ทำให้เกิดสิวที่หลัง หน้าอก หรือตามส่วนอื่นๆ ในร่างกาย มักเกิดในวัยที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากเด็กสู่วัยรุ่นตอนต้น
  • การใช้ยา ผลข้างเคียงของยาบางชนิด ก่อให้เกิดสิวที่หลัง แขน ขา หรือตามส่วนอื่นๆ ในร่างกายได้เช่นกัน โดยสิวที่เกิดจากการใช้ยามักเป็นสิวเม็ดนูน อาจมีอาการบวมแดง หรือเป็นสิวมีหนอง


สะอาดปกป้อง บำรุงล้ำลึก #ghVegan ผิวดี วีแกน

สิวที่หลังมีกี่ประเภท อะไรบ้าง

‘สิว’ มีอยู่หลายประเภทด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสิวหัวช้าง สิวหัวขาว สิวหัวดำ ฯลฯ สิวที่หลังก็มีลักษณะเดียวกันกับสิวบนใบหน้า โดยแบ่งออกได้ 5 แบบ ดังนี้


สิวหัวดำ

สิวหัวดำ หรือสิวอุดตันหัวเปิด มีลักษณะเป็นตุ่มนูนขนาดเล็ก มีรูเปิดออกจนเห็นหัวสิว บริเวณหัวสิวจะมีจุดสีดำ ซึ่งเกิดจากน้ำมันทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ จนเปลี่ยนสีของไขมันเป็นสีดำนั่นเอง

สิวหัวขาว

สิวหัวขาว หรือสิวหัวปิด มีลักษณะเป็นตุ่มนูน ไม่มีรูเปิดออก จึงทำให้สิวหัวขาวมีลักษณะเหมือนก้อนไตแข็งๆ ขึ้นที่ใต้ผิวหนัง สิวหัวขาวชนิดนี้มีรากสิวที่ฝังลึก และจะค่อยๆ นูนขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นสิวอักเสบ

สิวไม่มีหัว

สิวไม่มีหัว หรือสิวตุ่มนูนแดง เป็นตุ่มสิวที่มีลักษณะบวมนูน มีสีแดงเป็นก้อนแข็ง เมื่อสัมผัสหรือลูบอาจรู้สึกเจ็บได้ โดยสิวชนิดนี้ไม่ควรบีบ หรือกดสิวออกมา เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้น

ซีสต์

สิวซีสต์เป็นสิวอักเสบที่มีความรุนแรงมากที่สุด มีลักษณะเป็นก้อนบวมแดงขนาดใหญ่ เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนร่วมกับมีเชื้อแบคทีเรียเข้าไปผสม ทำให้เกิดการอักเสบอย่างหนัก

สิวเป็นไต

มีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการเจ็บ เวลาสัมผัสจะรู้สึกเป็นก้อนแข็ง มักเกิดบริเวณหน้าผากหรือคาง

ป้องกันการเกิดสิวที่หลัง ทำได้อย่างไร

จะเห็นได้ว่าสิวที่หลังนั้นมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งจากปัจจัยภายนอกอย่างสภาพอากาศ ยาที่ใช้ หรือสาเหตุจากปัจจัยภายใน เช่น ความเครียด ฮอร์โมน ฯลฯ ล้วนส่งผลให้เกิดสิวได้ทั้งนั้น เพื่อป้องกันการเกิดสิวที่หลัง สามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้


เป็นสิวที่หลัง รักษาได้อย่างไร

ผู้ที่มีปัญหาสิวที่หลัง สามารถเริ่มรักษาสิวที่หลังด้วยตนเองได้ง่ายๆ ด้วยการเลือกใช้สบู่ที่มีส่วนผสมเฉพาะ การดูแลความสะอาดของร่างกายและของใช้ ไปจนถึงการรับประทานอาหาร ดังนี้


นอกจากนี้ควรมีส่วนผสมที่เป็นเกราะปกป้องความชุ่มชื้นของผิวได้อย่างเซราไมด์จากน้ำมันมะกอก และสารสกัดวิตามินซีจากกรีนอะเซโรลาเชอร์รี ให้การปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ เมื่อขัดผิวเป็นประจำ จะทำให้ผิวแข็งแรง และไม่กลับมาเกิดสิวที่หลังอีก


เลือกสบู่แบบไหนดี ช่วยลดสิวที่หลังได้

วิธีการแก้ปัญหาสิวที่หลัง สามารถเริ่มง่ายๆ ด้วยการเลือกสบู่ที่เหมาะกับผิวของตนเอง เพียงเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใชัอยู่ มาเป็นสูตรที่มีเซราไมด์เพิ่มความชุ่มชื้น มีสารต้านอนุมูลอิสระลดการอักเสบ และไม่มีสารทำความสะอาดกลุ่มซัลเฟตที่อาจก่อการระคายเคือง ก็จะเป็นตัวช่วยบรรเทาอาการสิวที่หลังได้


เลือกสบู่ที่มีสูตรอ่อนโยน

สบู่ที่มีสูตรอ่อนโยน จะดีต่อผิวที่กำลังเกิดสิว เนื่องจากขณะเป็นสิวที่หลัง ผิวหนังของเราจะเกิดการอักเสบตามมา หากใช้สบู่ที่มีค่า pH ไม่สมดุล จะยิ่งก่อให้เกิดการระคายเคือง จึงแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีข้อความรับรองคุณภาพบนสลาก ยกตัวอย่าง เช่น

  • Dermatologically Tested คือ ข้อความที่ระบุว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้ผ่านการตรวจสอบจากแพทย์ผิวหนังแล้วว่ามีคุณภาพ มีสารประกอบทางการแพทย์ในปริมาณที่เหมาะสม
  • Clinically Tested คือ ข้อความที่รับรองว่าผลิตภัณฑ์นี้ได้ผ่านการตรวจสอบทางการแพทย์ โดยการรับรองแบบนี้จะเป็นการทดสอบที่เน้นความละเอียดของข้อมูล เช่น มีการตรวจสอบแบบระบุปริมาณ ตัวเลขที่ชัดเจน เป็นต้น
  • Hypoallergenic Tested คือ ข้อความที่รับรองว่าผลิตภัณฑ์นี้มีสารก่อให้เกิดอาการแพ้ในระดับที่ต่ำมาก มีโอกาสการระคายเคืองน้อย เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบาง ผิวระคายเคืองง่ายมาก
  • SLS/SLES Free คือ ข้อความรับรองว่าผลิตภัณฑ์นี้ไม่มีสารลดแรงตึงผิวกลุ่มซัลเฟต เนื่องจาก SLS (Sodium Lauryl Sulfate) และ SLES (Sodium Lauryl Ether Sulfate) เป็นสารซักล้างที่ทำให้เกิดฟองชนิดเคมี จึงก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ หากมีความเข้มข้นสูง นิยมใช้ในสบู่ แชมพู น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ และน้ำยาทำความสะอาดต่างๆ ผู้ที่กำลังมีปัญหาสิวที่หลัง จึงต้องเลือกสบู่ที่ปราศจากสารดังกล่าว เพื่อลดการอักเสบและระคายเคือง
  • Paraben Free พาราเบนคือสารกันเสียชนิดหนึ่งที่อาจเกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่รับรองว่าไม่มีสารพาราเบน ทำให้มั่นใจว่าสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย
  • Mineral Oil Free คือการรับรองว่าไม่มีของเหลวที่มาจากน้ำมันในแหล่งธรรมชาติ ซึ่ง Mineral Oil เป็นของเหลวที่เคลือบผิวให้มีความชุ่มชื้นได้ แต่ไม่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น รวมถึงอาจก่อให้เกิดการอุดตัน ผู้ที่เป็นสิวง่ายจึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มี Mineral Oil
  • ไม่มีสารแต่งสีสังเคราะห์ สารแต่งสีสังเคราะห์คือการใช้สารเคมีเพื่อทำให้เกิดสีของผลิตภัณฑ์ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารแต่งสีสังเคราะห์จะช่วยหลีกเลี่ยงการระคายเคืองได้
  • ไม่มีพาทาเลต พาทาเลตถือเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ผ่านทางผิวหนัง การกิน และการสูดดม จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีพาทาเลต

เลือกสบู่ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

สบู่ที่ดี เหมาะกับการรักษาสิวที่หลังควรเป็นสบู่ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยปราศจากน้ำมันและซิลิโคน ส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นตัวสำคัญอย่างเซราไมด์จากธรรมชาติจึงทำหน้าที่สำคัญในการเป็นเกราะป้องกันผิว กักเก็บความชุ่มชื้นไว้ใต้ชั้นผิว ซึ่ง ‘เซราไมด์’ ก็คือกรดไขมันชนิดหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของชั้นผิวหนัง ช่วยลดการอักเสบ ฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมานุ่ม ชุ่มชื้น


สะอาดปกป้อง บำรุงล้ำลึก #ghVegan ผิวดี วีแกน

เลือกสบู่ที่มีส่วนผสมช่วยรักษาสิวที่หลัง

สำหรับผู้ที่เป็นสิวที่หลังนั้น ควรเลือกสบู่ที่มีสูตรอ่อนโยน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวหนัง โดยสบู่ลดสิวควรมีส่วนผสมที่ช่วยรักษาสิวที่หลัง ดังต่อไปนี้

  • ไนอะซินาไมด์

นอะซินาไมด์ หรืออีกชื่อหนึ่ง คือ วิตามินบี 3 เป็นสารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวอย่างครอบคลุมตั้งแต่การปรับสีผิว ลดรอยสิว ริ้วรอย แล้วยังลดการอักเสบ ลดเชื้อแบคทีเรียบนผิวได้อีกด้วย

  • วิตามินซี

วิตามินซี เป็นวิตามินชนิดที่สามารถละลายในน้ำได้ โดยวิตามินซีมีสรรพคุณในการบำรุงผิวหนัง ช่วยปรับผิวหมองให้ดูกระจ่างใส ฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยลดรอยสิว ลดการอักเสบของสิวที่หลัง

  • วิตามินเอ

วิตามินเอ เป็นวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย พบมากในผักและผลไม้ที่มีสีเหลือง ส้ม แดง และเขียวเข้ม วิตามินเอช่วยลดโอกาสการเกิดสิว ลดการอักเสบได้ดี

  • เมล็ดเชียขาว

เมล็ดเชียขาว มีส่วนประกอบของโอเมก้า 3 ที่เป็นกรดไขมันเข้มข้นสูง รวมถึงอุดมไปด้วยไฟโตนิวเทรียนท์และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยรักษาสมดุลของไมโครไบโอมของผิวหนัง เสริมเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวกลับมาแข็งแรง มีสุขภาพดีอีกครั้ง ลาขาดจากการเป็นสิวที่หลัง

  • พรีไบโอติก

พรีไบโอติก คือ อาหารของโพรไบโอติกเป็นสิ่งที่ร่างกายย่อยไม่ได้ แต่ช่วยเสริมสร้างจุลินทรีย์ดีในร่างกายให้เจริญเติบโต แข็งแรง เกิดไมโครไบโอมผิวที่ดี และเมื่อจุลินทรีย์บนผิวหนังมีความสมดุลก็จะสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ เป็นเกราะป้องกันตามธรรมชาติ ที่ทำให้ผิวมีสุขภาพดี ลดโอกาสการเกิดสิวนั่นเอง

  • ชาเขียว

ชาเขียว มีส่วนผสมของสารสำคัญที่ช่วยรักษาสิวที่หลังถึง 2 ชนิด ได้แก่

  1. สารโพลีฟีนอลที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยควบคุมการทำงานของต่อมไขมัน ไม่ให้มีน้ำมันออกมาจากผิวหนังมากจนเกินไป นับว่าเป็นการลดโอกาสการเกิดรูขุมขนอุดตัน ลดโอกาสการเกิดสิวไปในตัว
  2. สารคาเทชิน ช่วยลดอาการอักเสบของสิวที่หลัง และช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ

  • กรีนอะเซโรลา เชอร์รี

เป็นเชอร์รีสายพันธุ์ที่โด่งดังเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เป็นผลไม้ที่มีคุณประโยชน์หลากหลาย อุดมไปด้วยวิตามินซี และสารไฟโตนิวเทรียนท์ หรือสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดสิว ลดโอกาสเกิดสิวที่หลัง ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น


สะอาดปกป้อง บำรุงล้ำลึก #ghVegan ผิวดี วีแกน

สรุป

สิวที่หลังเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งจากกรรมพันธุ์ พฤติกรรมของแต่ละบุคคล รวมถึงความเครียด ก็สามารถก่อให้เกิดสิวที่หลังได้ทั้งนั้น โดยวิธีรักษาสิวที่หลังแบบง่ายๆ ที่มีขั้นตอนไม่ซับซ้อนคือ การใช้สบู่ลดสิวที่มีส่วนผสมปรับสมดุลไมโครไบโอมในผิว ต้านอนุมูลอิสระ ลดความมัน เช่น ชาเขียว ไนอะซินาไมด์ และวิตามินต่างๆ เพื่อให้ได้ผิวที่เรียบเนียน มีสุขภาพดีกลับคืนมา รวมถึงในปัจจุบันยังมีผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มวีแกนที่ขึ้นทะเบียนกับสมาคมมังสวิรัติ ที่ปราศจากส่วนผสมที่มาจากสัตว์ และไม่ทำการทดลองในสัตว์ จึงเป็นอีกทางเลือกที่ดี สำหรับการดูแลสุขภาพผิวและใส่ใจสัตว์ไปพร้อมกัน


Chat with bot