วิธีเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับผิว
วิธีเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิวต้องดูที่ค่า SPF และส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ รวมถึงลักษณะการใช้งานที่เหมาะกับชีวิตประจำวัน เพื่อให้สามารถหยิบทาได้ทุกวันและปกป้องผิวจากแสงแดดได้เต็มประสิทธิภาพ
ผิวสวย ไม่กลัวแดด! เลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับผิว ปกป้องผิวจากแสงแดด รังสีอันตราย UVA UVB ไม่ทำให้ผิวคล้ำเสีย ลดการเกิดริ้วรอย เนื้อครีมบางเบา แต่คุณสมบัติไม่เบา
ถ้าไม่รู้จะเลือกครีมกันแดดยี่ห้อไหนดี? ในปัจจุบัน มี 3 ประเภทหลักๆ คือกันแดดแบบ Chemical, Physical และ Hybrid ซึ่งต่างก็มีกระบวนการปกป้องผิวจากรังสียูวีที่แตกต่างกัน แต่จะเลือกกันแดดแบบไหนดี ก็ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์บนผิวที่ผู้ใช้ต้องการ
กันแดดแบบ Chemical เป็นครีมกันแดดที่มีราคาย่อมเยา หาซื้อได้ง่าย เนื้อครีมมีสีขาว เข้มข้นและค่อนข้างคงตัว ไม่ไหลเยิ้มง่าย มีจุดเด่นในการช่วยดูดซับรังสียูวีเอาไว้ ก่อนที่รังสีจะเข้าไปทำร้ายผิวหนัง และควรทาซ้ำทุก 1 - 2 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มความสามารถในการดูดซับยูวีอย่างต่อเนื่อง
กันแดดแบบ Chemical มีส่วนผสมหลักเพื่อป้องกันไม่ให้รังสี UV ผ่านเข้าสู่ผิวหนังโดยตรง ได้แก่ Avobenzone, Oxybenzone, และ Octinoxate9 เป็นต้น มีกลไกช่วยดูดซับพลังงานรังสี UV แล้วเปลี่ยนเป็นความร้อนที่ผิวหนังปล่อยออกไป แทนที่จะให้รังสี UV ผ่านสู่ผิวโดยตรง นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันทั้งรังสี UVB ที่ทำให้ผิวไหม้ แต่สำหรับการป้องกัน UVA ขึ้นอยู่กับส่วนผสมที่มีในผลิตภัณฑ์ด้วย
กันแดดแบบ Physical เป็นครีมกันแดดที่สะท้อนรังสียูวีออกไปจากผิว เนื้อครีมสีขาว มีน้ำหนัก ทำให้รู้สึกเหนอะหนะมากกว่าแบบ Chemical
มีส่วนผสมหลักเป็นสารกันแดดธรรมชาติที่ช่วยสะท้อนรังสี UV แทนที่จะดูดซับรังสีเหมือนกันแดดแบบ Chemical เป็นเกราะสะท้อนรังสี UV ออกจากผิวหนังโดยตรงก่อนที่รังสีจะเข้าสู่ผิวหนัง ช่วยป้องกันการทำลายดีเอ็นเอในเซลล์ผิวและการอักเสบจากรังสี UV ได้ ส่วนผสมในครีมกันแดดมีไทเทเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide, TiO2) และซิงค์ออกไซด์ (Zinc Oxide, ZnO)
กันแดดแบบ Hybrid เป็นครีมกันแดดที่รวมคุณสมบัติของกันแดดแบบ Chemical กับกันแดดแบบ Physical คือทำได้ทั้งดูดซับรังสีและสะท้อนรังสี ผสมผสานทั้งส่วนผสมของแร่ธาตุและส่วนประกอบทางเคมีเข้าไว้ด้วยกัน จึงทำให้ได้สูตรที่เบาบางกว่าและซึมซาบได้ดีกว่า ไม่เหนียวเหนอะหนะ
มีส่วนผสมหลักที่ใช้กันในครีมกันแดดแบบ Hybrid เช่น Bis-Benzotriazolyl Tetramethylbutylphenol หรือ Tinosorb M9 กลไกการป้องกันคือการสะท้อนรังสี UV ออกไปจากผิวพร้อมกับการดูดซับและแปลงรังสี UV ที่เข้าสู่ผิวให้เป็นความร้อนที่ไม่เป็นอันตราย นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ลดการระคายผิวได้อีกด้วย
ครีมกันแดดเป็นตัวช่วยป้องกันผิวจากรังสียูวีในแสงแดด ที่อาจก่อให้เกิดอาการและโรคที่เกี่ยวกับผิวหนังต่างๆ ซึ่งในครีมกันแดดบางยี่ห้อ ก็มีส่วนผสมที่สามารถช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ และรังสีอื่นๆ ได้อีกด้วย การทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกไปเผชิญแสงแดดจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรปรับให้เป็นนิสัย
เมื่อออกแดดเป็นระยะเวลานาน รังสียูวี รังสีอินฟราเรด และความร้อนจากแสงแดดจะเผาทำลายผิวจนเกิดอาการแสบร้อน หรือที่เรียกว่า “ผิวไหม้” ครีมกันแดดเป็นตัวช่วยที่สามารถลดการแสบไหม้ของผิว และลดโอกาสที่จะเกิดผิวหนังลอกได้
แม้อยู่ในที่ร่ม แต่จุดด่างดำ ฝ้า กระ และความหมองคล้ำ ก็อาจเกิดขึ้นได้ หากได้รับรังสียูวีอยู่เป็นประจำ เพราะรังสียูวี สามารถทะลุผ่านวัสดุผ้า พลาสติก หรือแม้แต่กระจกใสมาถึงผิวเราได้ จึงจำเป็นต้องทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอแม้อยู่ในอาคาร หรือในที่ร่ม
แสงแดดเป็นตัวการที่ทำลายชั้นผิว โดยรังสียูวีและความร้อนทำให้ผิวสูญเสียน้ำและขาดคอลลาเจน ผิวจึงไม่มีความชุ่มชื้น เมื่อผิวแห้งมากเลยส่งผลให้ผิวไม่ยืดหยุ่นจนอาจเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ การทาครีมกันแดดทุกวัน จะสามารถช่วยปกป้องผิว รักษาคอลลาเจนในผิวหนังไว้ ลดปัญหาผิวสูญเสียน้ำ คงความยืดหยุ่นของผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอย และไม่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย
ในแสงแดดมีรังสี UV ที่พร้อมเข้าทำลาย DNA (Genotoxic) รวมถึงมีสารกระตุ้นมะเร็งและก่อให้เกิดอนุมูลอิสระแก่ร่างกาย จนอาจทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ เมื่อได้รับแสงแดดจัดๆ โดยตรงเป็นเวลานานจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนังมากขึ้น การทาครีมกันแดดเป็นประจำเมื่อออกแดด จึงเป็นเกราะป้องกันไม่ให้ผิวหนังโดนรังสีแบบเต็มๆ ลดโอกาสเสี่ยงเกิดมะเร็งผิวหนังได้ดี2
แนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่ได้รับการรับรองจากองค์กรระดับโลกอย่าง Skin Cancer Foundation (SCF) มูลนิธิโรคมะเร็งผิวหนัง เพื่อรับรองว่าครีมกันแดดมีประสิทธิภาพช่วยป้องกันความเสียหายจากแสงแดดและรังสีอันตราย ซึ่งอาจนำไปสู่โรคมะเร็งผิวหนังได้ในที่สุด
วิธีเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิวต้องดูที่ค่า SPF และส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ รวมถึงลักษณะการใช้งานที่เหมาะกับชีวิตประจำวัน เพื่อให้สามารถหยิบทาได้ทุกวันและปกป้องผิวจากแสงแดดได้เต็มประสิทธิภาพ
ตัวเลขด้านหลัง SPF คือระดับการปกป้องผิวจากรังสียูวีบี ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดจุดด่างดำ กระ ฝ้า ความหมองคล้ำ และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนังได้ ยิ่งค่า SPF สูง ก็จะยิ่งปกป้องผิวจากยูวีบีได้ดีขึ้น โดยค่า SPF 50 คือค่าที่สูงสุด เทียบเท่ากับระดับการกรองรังสียูวีบีที่ 98%
หากเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 หรือต่ำกว่า ก็สามารถป้องกันผิวไหม้ได้เช่นกัน แต่อาจไม่สามารถป้องกันมะเร็งผิวหนังได้ ดังนั้น ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50+ เพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวีบีอย่างมีประสิทธิภาพ3
จำนวนบวกด้านหลังค่า PA คือระดับการปกป้องผิวจากรังสียูวีเอประเภทที่ 1 และ 2 ซึ่งเป็นตัวการทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยและริ้วรอยต่างๆ ยิ่งมี PA++++ ก็ยิ่งปกป้องผิวจากรังสียูวีเอได้มากขึ้น โดยจำนวน 4 บวก คือจำนวนที่สูงที่สุด เทียบเท่ากับระดับการกรองรังสียูวีเอที่ >16 UVAPF หรือมีประสิทธิภาพสูงมาก4
รังสีอินฟราเรดและแสงสีฟ้า คือสิ่งที่ทำร้ายผิวได้ถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนังได้มากกว่ารังสียูวีเอและยูวีบี ซึ่งส่งผลทำให้ผิวแก่ก่อนวัย และเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งผิวหนังได้เช่นกัน5 จึงควรเลือกครีมกันแดดที่สามารถปกป้องผิวจากรังสีอินฟราเรดและแสงสีฟ้าได้ด้วย
เลือกครีมกันแดดที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เพื่อลดความเสี่ยงเกิดอาการแพ้ โดยเฉพาะในผิวหน้าที่บอบบาง หรือคนที่มีผิวแพ้ง่าย ซึ่งตัวอย่างส่วนผสมจากธรรมชาติที่มีสารช่วยป้องกันแสงแดดได้ ได้แก่ อะเซโรลา เชอร์รี (Acerola Cherry) ดอกเดซี่ออสเตรเลีย และสารสกัดจากแบล็คเบอร์รี เป็นต้น
ควรเลือกครีมกันแดดที่เป็นมิตรต่อปะการังเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเลือกครีมกันแดดที่ไม่มีสาร Oxybenzone แม้จะเป็นสารที่ช่วยป้องกันรังสี UVA และ UVB ก็จริง แต่เมื่อครีมกันแดดละลายลงสู่ทะเล สารนี้จะส่งผลให้ตัวอ่อนของปะการังโตอย่างผิดรูป หรืออาจถึงขั้นทำให้ปะการังตายได้
อุทยานแห่งชาติหลายๆ แห่งจึงมีประกาศขณะเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติห้ามใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารดังกล่าว7
เลือกครีมกันแดดที่ไม่มีสารทำให้ผิวอุดตัน อย่างเช่น น้ำมันมะพร้าว พาราฟินแวกซ์ (Paraffin Wax) หรือสารเคมีอย่าง Dimethicone, Oxybenzone และ Octylmethoycinnamate เป็นต้น ควรมองหาครีมกันแดดทาหน้าที่มีเนื้อบางเบา สบายผิว ทำให้อยากหยิบมาใช้ในทุกๆ วัน
แม้จะเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพสูง ป้องกันได้ทั้งรังสียูวี รังสีอินฟราเรด และแสงสีฟ้า แต่การทากันแดดที่ไม่ถูกวิธี ผิวอาจไม่ได้รับการปกป้องเต็มประสิทธิภาพ จึงควรทากันแดดในปริมาณที่เหมาะสมและทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง
แสงแดดจะมีรังสียูวีและรังสีอินฟราเรดที่คอยทำร้ายผิวหนัง เมื่อสัมผัสเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ ควรทาครีมกันแดดที่มีส่วนผสมช่วยปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ ลดการทำร้ายจากแดดที่ทำให้ผิวไหม้ ลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย และลดโอกาสเกิดมะเร็งผิวหนัง พร้อมรักษาคอลลาเจนให้ผิวดูอ่อนเยาว์ นอกจากนี้ การทาครีมกันแดดที่ถูกวิธีและเหมาะกับสภาพผิว ก็มีส่วนช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และระบุว่า Broad-Spectrum เพื่อปกป้องทั้ง UVA และ UVB รวมถึงควรเลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวและกันน้ำได้สำหรับคนทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ควรทาครีมกันแดดแม้อยู่ในบ้าน เพราะรังสี UV สามารถทะลุกระจกและหน้าต่างเข้ามาทำร้ายผิวได้ และยังช่วยลดความเสี่ยงปัญหาผิวแม้ไม่ได้ออกแดดโดยตรง
SPF 50 ปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ประมาณ 98% ส่วน SPF 50+ หมายถึงสามารถปกป้องได้มากกว่า 98% แต่ไม่ได้ระบุจำนวนที่แน่นอน โดยทั่วไปทั้งสองค่ามีประสิทธิภาพสูงและเหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง
ครีมกันแดด SPF 50 สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้นานประมาณ 8 ชั่วโมง แต่ควรทาซ้ำทุก 2 - 3 ชั่วโมงเพื่อคงประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อเหงื่อออกหรือโดนน้ำ เพราะประสิทธิภาพกันแดดจะลดลงตามเวลาหรือกิจกรรมระหว่างวัน
Reference
Elisabeth G. Richard, MD. All About Sunscreen. Skincancer.org. Published 8 March 2019. Retrieved 21 February 2023.
ภูริตา บุญล้อม. แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังชี้ จุดสำคัญที่คนมักจะลืมทากันแดดคือบริเวณเปลือกตา. Thestandard.co. Published 30 June 2022. Retrieved 3 March 2023.
Stacy Simon. Choose the Right Sunscreen. Cancer.org. Published 11 June 2018. Retrieved 21 February 2023.
Food and Drug Administration (FDA). ประกาศคณะกรรมการเครื่องสำอาง เรื่อง การแสดงค่าความสามารถในการป้องกันแสงแดดของเครื่องสำอางที่มีสารป้องกันแสงแดด พ.ศ. ๒๕๖๐. Thai government gazette 134/272 (10). Published 7 November 2017. Retrieved 23 March 2023.
Ju Hee Lee, Mi Ryung Roh, and Kwang Hoon Lee. Effects of Infrared Radiation on Skin Photo-Aging and Pigmentation Yonsei Medicine Journal, 31 Aug 2006; 47(4): 485–490. Published Online 31 August 2006. Retrieved 23 March 2023.
นายแพทย์รัฐภรณ์ อึ๊งภากรณ์. ครีมกันแดด เลือกให้เหมาะ ใช้ให้ถูก ปกป้องผิว. Bumrungrad.com. Published 28 May 2013. Retrieved 23 March 2023.
Thaipbs. คุมเข้มแล้ว! ห้ามใช้ครีมกันแดดผสม 4 สารเคมี ห่วง "ปะการัง" พัง. Thaipbs.or.th. Published 4 August 2022. Retrieved 23 March 2023.Molly Adams, MD Anderson Cancer
Center, the University of Texas. Mineral or chemical sunscreen: Which should you choose?. Mdanderson.org. Published 30 June 2022. Retrieved 23 March 2023.
พญ. พีรธิดา รัตตกุล. เจาะลึกสารกันแดด ยุค 4.0. samitivejhospitals.com. Published 10 April 2019. Retrieved 4 August 2025.