{{filterHeaderText(selectedPickupStoreHeader)}}

{{filterHeaderText(defaultStore.storeName)}}

เลือกสาขา

เปลี่ยน

เลือกสาขา

คุณได้รับส่วนลด SOP ในเดือนนี้

จัดการสินค้า SOP

คุณมี SOP ที่ยังไม่ได้ซื้อ

จัดการสินค้า SOP

ผลการค้นหา
{{product.displayName}} {{product.name}}
{{product.bundleABOPriceRange}}
{{product.variantABOPriceRange}}
{{product.aboPriceValue | formatPrice}}
brand-V2-BrandsCol1NutriliteNavNode
brand-navnode_000ZQMO8
brand-V2-BrandsColByNutriliteNavNode
brand-navnode_000ZQPRC
brand-V2-BrandsCol1ArtistryNavNode
brand-navnode_000ZQRAW
brand-V2-BrandsCol1AtomosphereNavNode
brand-V2-BrandsCol1EspringNavNode
brand-V2-BrandsCol1GllisterNavNode
brand-V2-BrandsCol1GHNavNode
brand-V2-BrandsCol1SatiniqueNavNode
brand-navnode_000ZQNG0
brand-V2-BrandsCol1XSEnergyNavNode
brand-V2-BrandsCol1AmwayHomeNavNode
brand-V2-BrandsCol1NutriplantNavNode
สมัครเป็นครอบครัวแอมเวย์วันนี้
พร้อมรับส่วนลดและโปรโมชันสุดพิเศษมากมาย
ประหยัดกว่า ซื้อสินค้าราคาสมาชิก
และสนุกกับการสะสมคะแนน A Point
รับเงินคืนสูงสุด 21% จากยอดสั่งซื้อทุกเดือน
พร้อมสิทธิพิเศษ เฉพาะนักธุรกิจเท่านั้น
กรุณาเตรียมบัตรประชาชนเพื่อใช้ในการสมัคร

โพรไบโอติก…ตัวช่วยดูแลสุขภาพผู้หญิงในยุคนี้

ในยุคปัจจุบันที่คนเราหันมาสนใจในการดูแลสุขภาพมากขึ้น และให้ความสนใจในแนวทางที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ยาโดยไม่จำเป็น การใช้โพรไบโอติกซึ่งมีหลากหลายสายพันธุ์ทั้งที่เป็นแบคทีเรียและยีสต์ เช่น แล็กโทบาซิลลัส บิฟิโดแบคทีเรียม และแซคคาโรไมซิส ได้รับความสนใจและนำมาใช้มากขึ้นทั้งในด้านการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค โพรไบโอติกเหล่านี้รู้จักกันทั่วไปในนาม “จุลินทรีย์ดี” ที่มีส่วนช่วยในการปรับสมดุลของระบบนิเวศน์ของร่างกายและลดจำนวนของจุลินทรีย์ไม่ดี รวมทั้งช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย นอกจากประโยชน์ด้านสุขภาพต่อระบบทางเดินอาหารและร่างกายโดยทั่วไปแล้ว โพรไบโอติกยังได้มีการนำมาใช้เพื่อประโยชน์ในการดูแลสุขภาพผู้หญิง โดยเฉพาะการดูแลสุขอนามัยจุดซ่อนเร้นและระบบทางเดินปัสสาวะส่วนปลาย โดยช่วยลดโอกาสการติดเชื้อและช่วยป้องกันการติดเชื้อซ้ำซ้อนหลังจากการรักษา

ปัญหาการติดเชื้อในช่องคลอดและทางเดินปัสสาวะในผู้หญิงไทย

ช่องคลอดของผู้หญิงเป็นช่องทางหนึ่งที่อวัยวะภายในเปิดออกสู่ภายนอก ดังนั้นภาวะสมดุลของช่องคลอดจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการรักษาสุขภาพของเพศหญิง โดยปกติแล้วในช่องคลอดจะมีแบคทีเรียประจำถิ่นซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนิด “แล็กโทบาซิลลัส” ที่จะมีคุณสมบัติในการย่อยสลายแป้งไกลโคเจนที่สร้างจากเยื่อบุผนังช่องคลอดเป็นกรดแลคติกที่จะทำให้ช่องคลอดมีสภาวะความเป็นกรดอ่อนที่มีค่า pH ประมาณ 4.5 ที่จะช่วยทำให้แลคโตแบซิลลัสสามารถเจริญเติบโตได้ดีในขณะที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียก่อโรค นอกจากนี้ยังช่วยในการผลิตสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไชด์ และสารแบคทีริโอซิน ที่จะช่วยฆ่าแบคทีเรียชนิดอื่นที่เป็นอันตรายต่อช่องคลอด รวมทั้งช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียการ์ดเนอเรลล่าวาจินาลิส ที่ทำให้เกิดช่องคลอดอักเสบและมีกลิ่น และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราในช่องคลอด รวมทั้งช่วยป้องกันการเกิดการติดเชื้อราซ้ำซ้อน นอกจากนี้ ยังช่วยลดการอักเสบติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะส่วนปลาย โดยเฉพาะกระเพาะปัสสาวะอักเสบจากการที่ทำให้แบคทีเรียก่อโรคไม่สะสมในบริเวณช่องคลอดและปากช่องคลอดอีกด้วย

พฤติกรรมนำไปสู่การติดเชื้อในผู้หญิง

  • ทานอาหารที่ไม่สะอาดจากการปรุงอาหารที่ไม่สุกหรืออาหารหมักดอง ทำให้จุลินทรีย์เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายจนเกิดการเสียสมดุลกับจุลินทรีย์ดี
  • การรับประทานยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาโรคต่างๆ อาจส่งผลให้เชื้อจุลินทรีย์ดีตามธรรมชาติในช่องคลอดเสียสมดุลไปด้วย
  • ความเครียดรวมทั้งการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันลดลง โอกาสที่เชื้อโรคฉวยโอกาสจะเจริญเติบโตในช่องคลอดจึงมากขึ้น
  • การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่รักษาความสะอาดก่อนและหลังมีกิจกรรม ก็ทำให้เกิดการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ก่อโรคและเชื้อราเข้าสู่ช่องคลอด ทำให้เสียสมดุลกับจุลินทรีย์ดี
  • ใช้ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทานก็จะไปเปลี่ยนสภาพของผนังช่องคลอดให้บางลง รวมทั้งค่าความเป็นกรดลดลงจนเชื้อราเจริญเติบโตได้ง่ายขึ้น
  • ฮอร์โมนเพศหญิงที่จะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้ผนังช่องคลอดบางลงและสารอาหารของจุลินทรีย์โพรไบโอติกธรรมชาติลดลง ไม่สามารถผลิตกรดแลคติกได้เพียงพอจนความเป็นกรดอ่อนๆเสียไป ไม่สามารถป้องกันและฆ่าจุลินทรีย์ก่อโรคได้เหมือนเดิม
  • ใส่เสื้อผ้ารัดรูปและผ้าใยสังเคราะห์ โดยเฉพาะกางเกงยีนส์และกางเกงชั้นในที่รัดแน่น รวมทั้งการใช้ผ้าอนามัยแผ่นเล็กปิดจุดซ่อนเร้น เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบริเวณจุดซ่อนเร้น
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลจุดซ่อนเร้นที่มีการผสมน้ำยาฆ่าเชื้อและมีความเป็นด่างสูง ไปทำอันตรายต่อจุลินทรีย์ดีบริเวณจุดซ่อนเร้น ทำให้เชื้อโรคฉวยโอกาสเจริญเติบโตได้ดีและเกิดปัญหาต่อจุดซ่อนเร้น
  • ใช้ห้องน้ำสาธารณะที่ไม่สะอาดหรือใช้สายฉีดน้ำจากห้องน้ำสาธารณะซึ่งอาจจะมีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่ ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการติดเชื้อของช่องคลอดและอาจจะลุกลามไปถึงกระเพาะปัสสาวะได้

ดูแลสุขภาพผู้หญิงได้ง่ายๆด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโพรไบโอติก
สูตรเฉพาะสำหรับผู้หญิง

อย่างที่ทราบกันว่าโพรไบโอติกช่วยดูแลสุขอนามัยจุดซ่อนเร้นและระบบทางเดินปัสสาวะ แต่การเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโพรไบโอติกสูตรเฉพาะสำหรับผู้หญิง ก็มีข้อควรคำนึงหลักๆ อยู่ 5 ข้อ

1. เป็นโพรไบโอติกสายพันธ์ุหลักของระบบเจริญพันธุ์ ระบบทางเดินปัสสาวะ และระบบทางเดินอาหาร ที่มีการศึกษาวิจัยรับรองถึงคุณประโยชน์ เช่น

  • แลคโตบาซิลลัส รามโนซัส (HN001)
  • แลคโตบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส (La-14)
  • แลคโตบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส (NCFM)

2. ปริมาณโพรไบโอติกมากเพียงพอที่จะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น

  • 10.4 พันล้าน ซีเอฟยู/ซอง

3. มีส่วนผสมของพรีไบโอติกเพื่อเป็นอาหารให้โพรไบโอติกใช้เจริญเติบโต เช่น

  • อินูลิน
  • ฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์

4. ผลิตภัณฑ์น่าเชื่อถือ มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ (Traceability)

5. เก็บรักษาง่าย คงสภาพดี สะดวกพกพา ทานง่าย

ข้อมูลวิชาการโดย

ผศ.นพ. พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ สูตินรีแพทย์

คัดลอกลิงก์สำเร็จ !