ทำทำไม คำถามนี้เป็นสารตั้งต้นของการสร้างธุรกิจแอมเวย์ให้เติบโตและมั่นคงตามความเห็นของพญ.วรินทร์ธร (ม่อน) และนพ.กรณ์วิชญ์ (เทิด) ญาณกรพันธุ์ธนา “เราต้องถามตัวเองว่า ทำไม (Why) และตอบให้ได้ชัดเจนก่อน เพราะในธุรกิจนี้ไม่มีใครบังคับเรานอกจากตัวเราเอง ดังนั้นต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดว่าทำธุรกิจนี้เพราะอะไร ถ้าตอบคำถามนี้ได้ไม่ชัดเจน พอมีทางเลือกอื่นเราก็อาจจะเลิก แต่ถ้าเราชัดเจนจะทำให้เราอยู่ในธุรกิจได้นาน แม้เจอปัญหาอะไรก็ไม่ล้มเลิก ไม่ว่ายังไงก็จะยืนหยัด และยังส่งต่อพลังนี้ไปให้กับผู้คนในองค์กรได้ด้วยครับ”

คุณหมอม่อนเล่าว่า ในช่วงโควิด 19 ธุรกิจจำเป็นต้องเปลี่ยนรูปแบบอย่างกะทันหัน เพื่อเป็นต้นแบบให้กับคนในองค์กร ทั้งคู่จึงยอมเรียนรู้และเปลี่ยนแปลง “ตอนนั้นทุกอย่างเปลี่ยนหมดเลยค่ะ ต้องปรับการทำธุรกิจเป็นรูปแบบออนไลน์ซึ่งเราทำไม่ค่อยเป็น แต่พยายามเรียนรู้และปรับตัว” คุณหมอม่อนเล่าด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน “ตอนเริ่มต้นเราไม่รู้อะไรเลยค่ะ แต่รู้ว่ายังไงก็ต้องทำให้ได้ก็ใช้เกือบจะทุกแพลตฟอร์มเลย เต้นใน TikTok ไม่เป็น ก็ไปเต้นกับเขาอยู่ 2 - 3 ครั้ง (หัวเราะสนุก) จนรู้ว่าไม่ใช่ทางตัวเองก็เลยหยุดแล้วไปเรียนรู้รูปแบบอื่นแทนคือการให้ความรู้ ค่อยๆ พัฒนาให้ตรงกับแนวทางที่เราถนัดในที่สุดเราก็พอทำได้และพบว่ามันสะดวกและง่ายกว่ามาก จนกระทั่งเราเติบโตขึ้นได้ค่ะ”

ตรงไปตรงมา ชัดเจน และสบายๆ น่าจะเป็นคอนเซปต์หลักในการดูแลองค์กรของทั้งคู่ “เราถามเขาตั้งแต่เริ่มต้นครับว่า สนใจเฉพาะสินค้าหรืออยากทำธุรกิจร่วมด้วย เพื่อเราจะได้ดูแลได้ตรงตามความต้องการ ถามเลยไม่ต้องอ้อมค้อมครับ เพราะจบง่ายจะได้เริ่มต้นเร็ว ไม่อึดอัดทั้งสองฝ่าย” คุณหมอเทิดบอก “ในองค์กรเราดูแลกันแบบสบายๆ ค่ะ ชวนเขามาเรียนรู้แต่ไม่บังคับใจใคร เพราะเชื่อว่าแต่ละคนมีเวลาของตัวเอง ต้องรอเวลาให้เขาค่อยๆ ฟูมฟักตัวเองเหมือนผีเสื้อ ถ้ายังไม่โตเต็มที่แล้วเราไปแกะมันออกมา มันก็ตาย แต่ถ้าปล่อยให้เขาค่อยๆ เติบโต เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเราก็จะได้เห็นผีเสื้อที่สวยงามค่ะ” คุณหมอม่อนบอกต่อว่า “เราเชื่อว่า ทุกคนอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น ถ้าตอนที่เราคุยกันมันตรงกับจังหวะชีวิตเขาพอดี เราก็ไปต่อกันได้เลย แต่ถ้าไม่ใช่ก็รักษาสายสัมพันธ์ที่ดีกันต่อไป เพราะการทำธุรกิจนี้เราไม่ได้ต้องการแค่เข็มหรือรายได้ เราต้องการเพื่อน ต้องการสังคม ต้องการเก็บดอกไม้ในระหว่างที่เดินทางไปด้วย ทำให้การทำธุรกิจของเราไม่เครียดและมีความสุขค่ะ”

“ในทุกการเดินทางจะมีช่วงเวลาที่ไม่ได้ดังใจหรือเจอปัญหาบ้าง ตัวเราเองก็มีวันที่ล้ม แต่ล้มแล้วต้องลุกให้เป็น เรียนรู้จากปัญหา ปรับปรุงตัวแล้วลุกขึ้นมาทำใหม่ อย่าปล่อยให้ตัวเองล้มนาน ขอให้มองมุมบวก คิดว่าปัญหาและอุปสรรคที่เจอเป็นบททดสอบเพื่อให้เราได้เรียนรู้และเก่งขึ้นครับ” คุณหมอเทิดบอก อีกสิ่งสำคัญที่ทั้งคู่มอบให้กับคนในองค์กรนอกจากแนวคิดที่ถูกต้องแล้วจึงเป็น “กำลังใจครับ เราดูแลกันเหมือนครอบครัว ทำให้เขารู้สึกว่ามีญาติ มีเพื่อนช่วยดูแล เป็นที่ปรึกษาอยู่กับเขาตลอดเส้นทาง” คุณหมอม่อนเสริมปิดท้าย “เราเชื่อว่า การจะทำให้ธุรกิจเติบโตได้ดีที่สุดคือต้องทำให้ดูเป็นตัวอย่างทั้งเรื่องธุรกิจและการใช้ชีวิต เพราะคนที่เดินตามเรามา เขาไม่ได้แค่อยากเดินตามคนที่สำเร็จในธุรกิจ แต่ตามคนที่สำเร็จในชีวิตด้วย และเราเชื่อว่า วงกลมวงแรกสำคัญมาก ถ้าเราสร้างพลังให้กับตัวเอง กระตือรือร้น ทำงานพื้นฐานอย่างสม่ำเสมอ เราก็จะส่งพลังนี้ไปให้กับคนอื่นๆ เพื่อนำพาธุรกิจและองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงได้แน่นอนค่ะ”